ไอร์แลนด์

สาธารณะรัฐไอร์แลนด์ ประเทศที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกของทวีปยุโรปข้างๆ เกาะอังกฤษ จึงมีสภาพแวดล้อม ภูมิอากาศ และวัฒนธรรมคล้ายคลึงกัน อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีมาตรฐานการศึกษาและคุณภาพชีวิตที่สูงมาก จนได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลก เป็นอันดับที่ 1 ในปี พ.ศ. 2548 และอยู่ใน 5 อันดับแรกระหว่างปี พ.ศ. 2549 – 2552 หากแต่ยังมีนักศึกษาไทยน้อยมาก จึงเหมาะสำหรับผู้กล้าที่จะแตกต่างและมุ่งมั่นที่จะพัฒนาศักยภาพ ความรู้ ความสามารถและทักษะภาษาอังกฤษอย่างจริงจัง

ไอร์แลนด์เป็นประเทศที่ไม่เคยหยุดนิ่ง มีชีวิตชีวาและทันสมัย เป็นดินแดนที่มีประชากรรุ่นหนุ่มสาวและมีธรกิจที่กำลังเติบโตรวดเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เป็นสถานที่ที่ให้ความสำคัญกับดนตรี การพบปะสนทนา วัฒนธรรม ประเพณี การพักผ่อน การรับฟัง และการสร้างมิตรภาพ

ข้อมูลประเทศ
ไอร์แลนด์ หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐไอร์แลนด์ ( Ireland ) เป็นประเทศเอกราช มีประชากรประมาณ 4.6 ล้านคน มีลักษณะประเทศเป็นเกาะ ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปยุโรป ด้านซ้ายของสหราชอาณาจักร(อังกฤษ) เมื่อดูตามแผนที่ คนไทยอาจจะยังไม่คุ้นหรืออาจสับสนกับประเทศไอซ์แลนด์ หรือไม่ก็เข้าใจว่าเป็นประเทศเดียวกันกับประเทศไอร์แลนด์เหนือ ที่จริงแล้วทั้ง 3 ชื่อนี้ เป็นคนละประเทศกัน แม้ว่าจะอยู่เขตทวีปเดียวกันและใกล้กัน

ไอร์แลนด์เหนือนั้นเป็นหนึ่งในสมาชิกของสหราชอาณาจักรซึ่งประกอบด้วย อังกฤษ สก็อตแลนด์ และเวลล์ ส่วนประเทศไอซ์แลนด์ เป็นอีกประเทศหนึ่งซึ่งมีที่ตั้งอยู่ค่อนไปทางขั้วโลกเหนือ ใกล้กับเกาะกรีนแลนด์ ireland-map-with-uk

 

ireland-mapมืองหลวงของสาธารณรัฐไอร์แลนด์ คือ กรุงดับลิน (Dublin) และยังประกอบด้วยเมืองสำคัญอื่นๆ อาทิ Cork, Limerick, Galway, Shannon, Waterford พื้นที่ของประเทศมีขนาด  70,282 ตารางกิโลเมตร คนไอริชส่วนใหญ่สืบเชื้อสายมาจากชนพื้นเมือง ที่พูดภาษาเกลิค (Gaelic) และการผสมผสานของกลุ่มชนเชื้อสายอังกฤษ สก๊อต ฝรั่งเศส แองโกล-นอร์แมน ไวกิ้ง และเวลส์ โดยมีวัฒนธรรมเคลทิก (Celtic) และภาษาไอริชหรือเกลิค (Gaelic) เป็นเอกลักษณ์สำคัญของประเทศ

ตามรัฐธรรมนูญไอร์แลนด์กำหนดให้ภาษาไอริช หรือเกลิคเป็นภาษาประจำชาติและเป็นภาษาราชการอันดับแรก และภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการอันดับสอง แต่ในทางปฏิบัติ ประชาชนทั่วไปพูดและใช้ภาษาอังกฤษ ปัจจุบันมีชาวไอริชจำนวนน้อยมาก ซึ่งคาดว่าประมาณเพียงสามแสนกว่าคนเท่านั้น ที่ยังคงพูดหรือใช้ภาษาเกลิค

 

 

ค่าครองชีพ สำหรับนักศึกษาไทยอยู่ในระดับได้เปรียบมาก เมื่อเทียบกับอีกหลายประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก โดยเฉลี่ย ค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น ระหว่างศึกษาอยู่ในประเทศไอร์แลนด์ จะอยู่ในราว  €20,000 ต่อปี หรือประมาณ 800,000 บาท ต่อปี (หากคำนวนด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่ 40 บาท : 1 ยูโร ณ ปี ค.ศ. 2016) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลักสูตรที่เลือกเรียน และวิธีการใช้ชีวิตในสาธารณะรัฐไอร์แลนด์

  • ค่าเล่าเรียน ประมาณ €8,000 – €22,000 ต่อปี หรือ = 320,000 บาท – 880,000 บาท /ปี
  • ค่าครองชีพ ที่พัก อาหาร เดินทาง ประมาณ  €6,000 – €11,000 ต่อปี หรือ = 240,000 บาท – 440,000 บาท /ปี
  • รวม ค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น ประมาณ  €20,000 ต่อปี =  800,000 บาท /ปี

ในระหว่างเรียนหนังสือ นักศึกษาไทยสามารถทำงาน Part-Time ได้อย่างน้อย สัปดาห์ ละไม่เกิน 20 ชั่วโมง โดยอาจได้ค่าจ้างตอบแทนประมาณ €10 – €20 ต่อชั่วโมง และในระหว่างปิคภาคเรียน นักศึกษาไทยสามารถทำงาน Full Time ได้อีก 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

หลังจากเรียนจบในระดับ ปริญญาตรี / โท / เอก ในสาธารณะรัฐไอร์แลนด์ ผู้สำเร็จการศึกษาชาวไทยยังมีสิทธิ์อยู่ได้อีกอย่างน้อย 1 ปี เพื่อท่องเที่ยว พักผ่อน หรือสมัครงาน ก็ได้

 

ธงประจำชาติ     ตราสัญลักษณ์ประจำแผ่นดิน เป็นรูปพิณโบราณ (Harp)    สัญญลักษ์ประจำชาติ คือใบแชมรอค (Shamrock)

12

เชื้อชาติของประชากร เป็นชาวไอริช 87% โดยมีชาวอังกฤษรวมอยู่บ้าง และอีก 13% ของประชากรเป็นเชื้อชาติอื่นๆ

ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันแคทอลิค (93%) โดยมีคริสต์ศาสนิกชนที่เข้าร่วมพิธีทางศาสนาอย่างสม่ำเสมอมากที่สุดประเทศหนึ่งในยุโรปและอเมริกา ศาสนาคริสเตียนนิกายทางราชการของอังกฤษ (Anglican 3%) ศาสนาอื่น 3% ไม่นับถือศาสนาใดๆ (1%)

ระบบการเมือง เป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตยแบบรัฐสภา โดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญ และนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร  รัฐสภาประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎร (House of Representatives) และวุฒิสภา (Senate)

ไอร์แลนด์ เป็นประเทศประชาธิปไตย มีความมั่นคงทางการเมือง และมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจสูงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งปี 2551 ซึ่งได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และยุโรปค่อนข้างมาก อย่างไรก็ดี ไอร์แลนด์มีสภาพสังคมที่เปิดกว้าง มีสาธารณูปโภคพื้นฐาน การคมนาคม และการแพทย์ อยู่ในระดับดีมาก

ลักษณะภูมิอากาศ เนื่องจากไอร์แลนด์ได้รับอิทธิพลจากกระแสน้ำอุ่นกลัมฟ์สตรีม อากาศในประเทศไอร์แลนด์จึงไม่รุนแรง หน้าหนาวไม่หนาวจัด หน้าร้อนเย็นสบาย อุณหภูมิในฤดูหนาวอยู่ประมาณ 1-6 องศา ในขณะที่อุณหภูมิในฤดุร้อนจะเฉลี่ยอยู่ที่ 15-25 องศา

ฤดูกาลแบ่งเป็น  4 ฤดู ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ช่วงเดือนที่หนาวที่สุดอยู่ระหว่างเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ อุณหภูมิประมาณ  1-6 องศาเซลเซียส ช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม มีอากาศที่อบอุ่นที่สุดของปี อุณหภูมิประมาณ 15 -25 องศาเซลเซียส ขณะที่เดือนพฤษภาคม – มิถุนายน เป็นเดือนที่มีแสงแดดจัดที่สุดของปี โดยมีฝนตกเป็นช่วงๆ ตลอดทั้งปี

เขตเวลา ไอร์แลนด์ใช้เวลาเดียวกับประเทศอังกฤษ (GMT, Greenwich Mean Time,) หรือช้ากว่าประเทศไทย 6-7 ชั่วโมง

 

การศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการและวิทยาศาสตร์เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับระบบการศึกษา การวางแผนหลักสูตรการเรียนการสอน และการสอบของประเทศ สาธารณรัฐไอร์แลนด์เป็นหนึ่งในประเทศแถบยุโรปที่ให้บริการด้านการศึกษาโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจนถึงระดับปริญญาตรีสำหรับนักเรียนชาวไอริช และนักเรียนในแถบยุโรปในประเทศที่เป็นพันธมิตร

national-framework-ireland_001

irish-national-framework-of-qualification_sept-2015-1

มหาวิทยาลัยในไอร์แลนด์เปิดสอนหลากหลายหลักสูตรที่นักศึกษาสามารถเลือกได้  แต่ละสถาบันการศึกษามีเจ้าหน้าที่ให้บริการและให้คำปรึกษา และมีศูนย์ให้คำแนะนำด้านการหางาน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือด้านหาที่พัก ทางสถาบันมีการอบรมเจ้าหน้าที่พิเศษเฉพาะสำหรับให้ความช่วยเหลือและแนะนำนักศึกษาต่างชาติ และช่วยแก้ปัญหาในด้านต่าง ๆ นักศึกษาสามารถเข้าร่วมชมรมต่างๆ ซึ่งมีการจัดกิจกรรมทั้งในและนอกสถาบัน

ถึงแม้ว่าสถาบันการศึกษาส่วนใหญ่ตั้งอยู่รอบๆ เมืองหลวง Dublin และศูนย์กลางเมืองใหญ่ของแต่ละจังหวัด นักศึกษาสามารถมั่นใจได้ว่า สถาบันทุกแห่งในแต่ละเมืองของไอร์แลนด์เป็นสถาบันที่มีคุณภาพการเรียนการสอนที่สูงและเป็นที่ยอมรับในนานาประเทศ

ระดับปริญญาตรี

  • การศึกษาในระดับปริญญาตรีจะใช้เวลาประมาณ 3 ปี  (หลักสูตร Ordinary) หรือ 4 ปี (หลักสูตร Honors) ในมหาวิทยาลัยหรือ วิทยาลัยเอกชน
  • หลักสูตรระดับปริญญาตรีในสาธารณรัฐไอร์แลนด์ มีให้เลือกเรียนได้หลากหลายสาขาวิชา มหาวิทยาลัยจะใช้ผลของ Leaving Certificate Examination (Year 12) เป็นปัจจัย หนึ่งในการประเมิน คัดเลือกนักศึกษาชาวไอริชเข้าศึกษาต่อ
  • สำหรับนักศึกษาต่างชาติ รวมถึงคนไทย สามารถใช้ผลการเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ม.6 ของประเทศไทย หรือ IGCSE หรือ A-Level หรือ IB Diploma หรือ ผลการเรียนปริญญาตรีปีที่ 1 ในประเทศไทย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละมหาวิทยาลัย/วิทยาลัย
  • นอกจากผลการเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายแล้ว ผู้สมัครจากประเทศไทยยังจะต้องมีหลักฐานแสดงทักษะความสามารถทางภาษาอังกฤษ เช่น IELTS หรือ TOEFL อีกด้วย
  • บางมหาวิทยาลัย อาจขอให้มีจดหมายรับรองจากคุณครูผู้สอนในระดับมัธยมศึกษา ตอนปลาย 2 ฉบับ (Academic Reference)

ระดับปริญญาโท

  • หลักสูตรระดับปริญญาโทในสาธารณะรัฐไอร์แลนด์ มีให้เลือกหลากหลายสาขาและรูปแบบวิธีการเรียน โดยทั่วไปแล้วการศึกษาระดับปริญญาโทจะเน้นการเข้าเรียนในห้อง การทำวิจัย หรือ การผสมผสานระหว่างทั้งสองรูปแบบ หรือ การเรียนแบบออนไลน์
  • การศึกษาระดับปริญญาโทใช้เวลาประมาณ 1 – 2 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของหลักสูตร และข้อกำหนดของแต่ละมหาวิทยาลัย แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว หลักสูตรปริญญาโท แบบเข้าเรียนในห้องเรียน (Taught Course) มักจะใช้เวลาเรียนเพียง 1 ปี
  • ผู้สมัครเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาโทในสาธารณรัฐไอร์แลนด์ จากประเทศไทย จะต้องยื่นเอกสาร (ฉบับภาษาอังกฤษ) อาทิ
  1.  เอกสารแสดงผลการเรียนที่สมบูรณ์ในระดับปริญญาตรี (Transcript)
  2. หลักฐานแสดงว่าสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีแล้ว (Letter of Completion) หรือ สำเนาใบปริญญาบัตร (Graduation Certificate)
  3. ผลสอบภาษาอังกฤษ อาทิ IELTS/TOEFL
  4. จดหมายรับรอง อย่างน้อย 2 ฉบับ จากอาจารย์ผู้สอนในระดับปริญญาตรี (Academic Reference) และ/หรือ จากผู้บังคับบัญชาจากหน่วยงานที่ทำงานอยู หรือที่เคยทำงานมาแล้ว (Work Reference)

ระดับปริญญาเอก

  • การศึกษาระดับปริญญาเอกจะให้ความสำคัญกับการทำวิจัย (Research) เป็นหลัก
  • ใช้เวลาเรียนอย่างน้อย 3 ปีในมหาวิทยาลัย
  • ผู้สมัครเข้าเรียนปริญญาเอกในสาธารณรัฐไอร์แลนด์ จากประเทศไทย จะต้องยื่นเอกสาร (ฉบับภาษาอังกฤษ) ประกอบด้วย
    1. หัวข้อในการทำวิจัย (Research Proposal)
    2. จดหมายแสดงความจำนงค์ในการทำวิจัยและศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก (Statement of Purposes)
    3. ประวัติโดยย่อของผู้สมัคร (Resume / CV)
    4.  เอกสารแสดงผลการเรียนที่สมบูรณ์ในระดับปริญญาโท (Transcript)
    5. หลักฐานแสดงว่าสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโท และ/หรือ ระดับปริญญาตรีแล้ว (Letter of Completion) หรือ สำเนาใบปริญญาบัตร (Graduation Certificate)
    6. ผลสอบภาษาอังกฤษ อาทิ IELTS/TOEFL
    7. จดหมายรับรอง อย่างน้อย 2 ฉบับ จากอาจารย์ผู้สอนในระดับปริญญาตรี (Academic Reference) และ/หรือ จากผู้บังคับบัญชาจากหน่วยงานที่ทำงานอยู หรือที่เคยทำงานมาแล้ว (Work Reference)

อีกหลากหลายทางเลือก ที่นักศึกษาไทยสามารถเลือกเรียนได้ในสาธารณะรัฐไอร์แลนด์ คือ หลักสูตรเทคนิคหรือหลักสูตรวิชาชีพเฉพาะด้าน อาทิ บริหารธุรกิจ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ ศิลปะ และเทคโนโลยี และเมื่อสำเร็จการศึกษาในระดับนี้ นักศึกษาจะได้รับการยอมรับในระดับสากลจากองค์กรด้านการศึกษาและวิชาชีพต่างๆ ทั้งนี้เพราะมีหน่วยงาน Higher Education and Training Awards Council (HETAC) เป็นผู้ควบคุม กำกับดูแลคุณภาพ และมอบวุฒิบัตรการศึกษาให้แก่นักศึกษา ผู้สำเร็จการเรียนในส่วนที่มิใช่ ระดับมหาวิทยาลัย (Non-University Sector)

สถาบันเทคโนโลยี (Institutes of Technology) และวิทยาลัยเฉพาะด้านในสาธารณรัฐไอร์แลนด์ เปิดสอนหลากหลายสาขาวิชา และหลายระดับคุณวุฒิ อาทิ

  • หลักสูตร 2 ปีสำหรับประกาศนียบัตรขั้นสูง (Higher Certificate)
  • หลักสูตร 1 ปีสำหรับประกาศนียบัตรบัณฑิต (Graduate Diploma)

 

halls-of-residenceที่พัก student-accomในสาธารณะรัฐไอร์แลนด์ มีหลากหลายตัวเลือกสำหรับนักศึกษาจากประเทศไทย ซึ่งสามารถเลือกสมัครเข้าพักได้ตามความขอบ งบประมาณ ระยะทาง วิธีการเดินทาง และเงื่อนไขอื่นๆ ทั้งของตัวนักศึกษาเองและข้อกำหนดของแต่ละสถาบันการศึกษานั้นๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่นักศึกษาต่างชาติ มักจะต้องทำสัญญาการเช่าหอพัก อพาร์ทเท้นท์ หรือบ้านเช่า เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 ภาคการศึกษา (ประมาณ 6 เดือน)

สาธารณรัฐไอร์แลนด์มีความปลอดภัยและความมั่นคง โดยปกติไอร์แลนด์ไม่ใช่ประเทศที่มีความเสี่ยงทางด้านการก่อการร้าย และไม่ใช่เป้าหมายของผู้ก่อการร้ายสากล อย่างไรก็ดี ช่วงยุค 1969 – 1994 ในช่วงสถานการณ์ความรุนแรงในไอร์แลนด์เหนือ (Northern Ireland) ซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักรมีพรมแดนติดกับสาธารณรัฐไอร์แลนด์ยังไม่สงบ สถานที่บางแห่งในสาธารณรัฐไอร์แลนด์ได้รับผลกระทบบ้างเป็นครั้งคราว แต่ปัจจุบันสาธารณรัฐไอร์แลนด์เป็นประเทศมีความสงบและปลอดภัยสูงมากประเทศหนึ่งในยุโรป

 

FILE- In this file photo dated Friday, Dec. 14, 2001, showing euro currency pictured in the regional central bank in Bremen, Germany. It is reported Thursday May 13, 2010, that Britain's Serious Organized Crime Agency deputy director, Ian Cruxton, says currency exchanges in Britain have stopped selling the 500 euro note, worth about $630 US, because its use fuels organized crime and money laundering. (AP Photo/Joerg Sarbach, file)

สกุลเงินของสาธารณรัฐไอร์แลนด์ คือ ยูโร ใช้ร่วมกับประเทศในสหภาพยุโรป 19 ประเทศสมาชิก โดยรวมกันเรียกว่ายูโรโซน สัญลักษณ์เงินยูโร คือ € สกุลเงินยูโร มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจที่ได้รับการพัฒนาในยุโรป ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกในการค้าขายแลกเปลี่ยนอย่างอิสระภายในเขตยูโรโซน

และสะดวกแก่นักเดินทาง/นักท่องเที่ยว ที่ไม่จำเป็นต้องพกพาเงินหลากหลายสกุลเมื่อต้องเดินทางเข้าไปในกลุ่มประเทศเหล่านี้

1 ยูโรสามารถแบ่งได้เป็น 100 เซนต์ (เหมือน 1 บาทไทย แบ่งได้ 100 สตางค์) ซึ่งมีเหรียญและธนบัตรที่ใช้หมุนเวียนในระบบในปัจจุบัน คือ ธนบัตรยูโรสาธารณรัฐไอร์แลนด์มีค่า 5, 10, 20, 50, 100, 200, และ 500 และเงินเหรียญ มูลค่า 1 และ 2 ยูโร และ 1, 2, 5, 10, 20, และ 50 เซนต์

 

modes-of-transportation

การเดินทางในสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ระหว่างเมืองต่างๆ จะเป็นรถไฟ และในเขตตัวเมืองจะเป็นรถประจำทาง แท็กซี่ รถยนต์ส่วนตัว และ/หรือ รถจักรยาน แต่หากเป็นระยะทางที่ไม่ไกลนัก ประชากรชาวไอริช นิยมการเดิน

 

 

airplaneการเดินทางจากประเทศไทย แม้ว่าจะไม่มีสายการบินใด บินตรงระหว่างกรุงเทพฯ-ดับลิน แต่การเดินทางไปสาธารณะรัฐไอร์แลนด์ ก็มิได้ลำบาก เพราะมีสายการบินจำนวนไม่น้อย ที่มีเส้นทางการบินโดยแวะพัก/เปลี่ยนเครื่อง เพียง 1 จุด โดยใช้เวลาการบินทั้งสิ้น ประมาณ 14 ชั่วโมง หรือมากกว่า

 

ต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวการศึกษาต่อ การใช้ชีวิต หลักสูตร สาขาวิชาเรียน สิทธิ์ของนักศึกษาไทย ในสาธารณะรัฐไอร์แลนด์ กรุณาติดต่อ บริษัท เฟอร์เธอร์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด โทร 02 637-8778 หรือ อีเมล์  louise@furthereducation.co.th

 

Further Education loading . . .

Scroll Up