ประเทศออสเตรเลีย ตั้งอยู่ในซีกโลกใต้ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศไทย เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่เป็นทวีปที่เล็กที่สุด ตั้งอยู่ระหว่างมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก พื้นที่ของเกาะมีประมาณ 7.7 ล้านตารางกิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศมีความหลากหลาย เช่น มีชายฝั่งทะเลที่งดงาม ชายหาดขาวสะอาด มีป่าดงดิบและป่าชื้นเขตร้อนที่ยังคงความสมบูรณ์และเป็นธรรมชาติที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นอกจากนี้ พื้นที่ของประเทศประมาณหนึ่งในสามเป็นทะเลทราย หากแต่มีพืชพันธุ์ต่างๆ รวมทั้งดอกไม้ป่า และสัตว์พื้นเมืองหลากหลายชนิดที่ไม่พบในดินแดนอื่น เช่น จิงโจ้ โคอาล่า เพนกวิ้น วอมแบต พอสซั่ม ดิงโก้ ตุ่นปากเป็ด และตัวกินมด เป็นต้น
ประชากร
ชนเผ่าพื้นเมืองของออสเตรเลีย คือ ชาวอะบอริจิน (Aborigin) เป็นชนเผ่าที่เก่าแก่ที่สุดของโลกที่ตั้งรกรากอยู่ในประเทศออสเตรเลียมาช้านาน
สังคมของชาวออสเตรเลี่ยน ประกอบด้วยชนชาติหลากหลาย เนื่องจากการย้ายเข้ามาตั้งถิ่นฐานของประชากรจากประเทศอื่นๆ เช่น อิตาลี่ กรีก อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลี จีน และเวียดนาม เป็นต้น โดยส่วนใหญ่แล้ว ประชากรกลุ่มนี้ มักอาศัยอยู่ตามเขตเมืองใหญ่ เช่น ซิดนีย์ เมลเบิร์น และ บริสเบน
รัฐและเขตการปกครอง
ประเทศออสเตรเลียแบ่งการปกครองออกเป็น 6 รัฐ และ 2 เขตการปกครอง โดยแต่ละรัฐและเขตการปกครอง จะกำหนดอำนาจหน้าที่ของรัฐบาลประจำรัฐตนเอง
1.นิวเซาท์เวลส์ New South Wales
เมืองหลวงชื่อ ซิดนีย์ (Sydney) เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและมีประชากรหนาแน่นมากที่สุดของประเทศ รวมทั้งมีชาวไทยและนักศึกษาไทยมากที่สุดด้วย สัญลักษณ์ของเมืองคือ โอเปร่าเฮาส์ (Opera House) อันโด่งดัง และสะพานข้ามอ่าวซิดนีย์ (Sydney Harbour Bridge
2. วิคทอเรีย Victoria
เมืองหลวงชื่อ เมลเบิร์น (Melbourne) รัฐนี้ได้ชื่อว่าเป็น Garden State เนื่องจากมีพื้นที่สีเขียวและสวนสาธารณะมากกว่ารัฐอื่น เป็นเมืองเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของประเทศ และเป็นเมืองที่ได้รับการจัดอันดับว่าน่าอยู่ที่สุดในโลกหลายปีติดต่อกัน (The Most Livable City in the World by Economist Intelligence Unit)
3. เวสเทิร์นออสเตรเลีย Western Australia
เมืองหลวงชื่อ เพิร์ธ (Perth) เป็นรัฐที่มีพื้นที่มากที่สุด อุดมสมบูรณ์ด้วยเหมืองแร่ และแร่ทองคำ มีชายฝั่งทะเลยาวถึง 12,500 กิโลเมตร
4. ควีนส์แลนด์ Queensland
เมืองหลวงชื่อ บริสเบน (Brisbane) เป็นรัฐที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ และเป็นรัฐ ที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กีฬาดำน้ำ ที่ Great Barrier Reef
5. เซาท์ออสเตรเลีย South Australia
เมืองหลวงชื่อ อะดิเลด (Adelaide) เนื้อที่ส่วนใหญ่จะแห้งแล้งมีพื้นที่เกษตรกรรม เพียง 10% ภูมิอากาศไม่เหมาะแก่การเพาะปลูก หากแต่เป็นแหล่งผลิตเหล้าไวน์ชั้นเยี่ยมของประเทศ
6. ทัสเมเนีย Tasmania
เมืองหลวงชื่อ โฮบาร์ต (Hobart) เป็นรัฐที่มีขนาดเล็กที่สุด ลักษณะเป็นเกาะ อยู่ทางตอนใต้ ของประเทศ มีอากาศหนาวที่สุด สภาพภูมิประเทศเป็นหุบเขา และที่ราบสูง
7. เขตการปกครองนครหลวงของออสเตรเลีย Australian Capital Territory
เมืองหลวงชื่อ แคนเบอร์ร่า (Canberra) ซึ่งถือว่าเป็นเมืองหลวงของประเทศออสเตรเลียด้วย เป็นศูนย์กลางการปกครอง รวมทั้งเป็นที่ตั้งขององค์กรระดับชาติ และหน่วยงานทางการทูตของประเทศต่างๆ รวมทั้งสถานทูตไทย
8. เขตการปกครองตอนเหนือ Northern Territory
เมืองหลวงชื่อ ดาร์วิน (Darwin) คือเมืองหลวงของมณฑล และเป็นถิ่นที่อยู่ดั้งเดิมของชาวเผ่าพื้นเมืองอะบอริจิน
ระบบการศึกษา
การศึกษาในประเทศออสเตรเลีย เป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐบาลท้องถิ่นของแต่ละรัฐและเขตการปกครอง ในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานสำหรับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปี ถึง 17 ปี โดยระยะเวลาเรียนทั้งสิ้น 13 ปี ประกอบด้วย การศึกษาขั้นเริ่มตั้น ตั้งแต่ระดับเตรียมความพร้อม (Prep) ระยะเวลา 1 ปี และ ระดับประถมศึกษาปีที่ 1 -6 (Primary School Year 1 – 6) อีก 6 ปี
ในขณะที่การศึกษาระดับมัธยมศึกษา จะแบ่งเป็น 2 ช่วงได้แก่ การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (Year 7 – 10) ระยะเวลา 4 ปี และการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (Year 11 – 12) ระยะเวลา 2 ปี
สำหรับการจัดการศึกษาหลังจบระดับมัธยมศึกษา (Tertiary Education) ในประเทศออสเตรเลียจะหมายรวมถึงการศึกษาหลักสูตรวิชาชีพ (Vocational Education) ซึ่งเป็นการจัดการเรียนการสอนในวิทยาลัยอาชีพ ที่เรียกว่า TAFE – Technical And Further Education) ได้แก่ การศึกษาระดับประกาศนียบัตร (Certificate) และระดับอนุปริญญาตรี (Diploma) ในขณะที่การศึกษาระดับปริญญาตรี (Bachelor) ปริญญาโท (Master) และระดับปริญญาเอก (Doctorate) จะเป็นการศึกษาในมหาวิทยาลัย ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 42 แห่งทั่วประเทศ
ระบบการเงินของออสเตรเลีย
สกุลเงินของออสเตรเลีย เรียกว่า ออสเตรเลี่ยนดอลลาร์ (AUD) และหน่วยย่อย ของดอลล่าร์ คือ เซนต์
ธนบัตรดอลลาร์ของประเทศออสเตรเลีย มีมูลค่า 100, 50, 20, 10, 5 และเงินเหรียญ มูลค่า 2 และ 1 ดอลลาร์ และ 50, 20, 10, 5 เซนต์
นักเรียนสามารถนำบัตร ATM / Debit Card (ประเภทเบิกเงินสดได้ทั่วโลก) ที่เปิดบัญชีในประเทศไทย ไปใช้เบิกเงินสดจากตู้ ATM ในประเทศออสเตรเลียได้เช่นกัน
ร้านค้า ซูเปอร์มาเก็ต ภัตตาคาร และสถาบันการศึกษา ฯลฯ ในประเทศออสเตรเลียรับชำระเงินด้วย บัตรเครดิตสากล เช่น วีซ่า มาสเตอร์การ์ด
ประเทศออสเตรเลีย จำกัดการนำเงินสดเข้าประเทศได้คนละไม่เกิน 10,000 ดอลล่าร์ออสเตรเลีย
ระบบไฟฟ้า และประปา
ระบบไฟฟ้า ในประเทศออสเตรเลีย ใช้กระแสไฟ 240 – 250 V, AC 50 Hz เช่นเดียวกับประเทศไทย ดังนั้น นักเรียนจึงสามารถนำอุปกรณ์ไฟฟ้าจากประเทศไทย ไปใช้ได้ แต่ต้องใช้หัวแปลงปลั๊กไฟเนื่องจากหัวปลั๊กที่ใช้ในประเทศออสเตรเลีย มีลักษณะแตกต่างจากที่ใช้ในประเทศไทย
ระบบน้ำประปาของประเทศออสเตรเลีย ถือว่าได้มาตราฐาน และสามารถดื่มได้โดยตรงจากก๊อกน้ำสำหรับน้ำเย็น หรือนำน้ำเย็นไปต้มให้เดือดในกรณีที่ต้องการดื่มน้ำร้อน
การเดินทางในออสเตรเลีย
สำหรับการเดินทางในประเทศออสเตรเลีย ได้รับการยอมรับว่า มีระบบการคมนาคม ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในนครเมลเบิร์น รัฐวิคตอเรีย ด้วยระบบบัตรใบเดียว ครอบคลุม ระบบการเดินทางทั้งรถไฟ (Train) รถประจำทาง (Bus) และ รถราง (Tram)
ในขณะที่นักเรียนและนักศึกษาต่างชาติ จะได้รับสิทธิพิเศษส่วนลดค่าการเดินทาง (Concession) ในบางเมืองเช่น เพิร์ท (Perth) รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย (Western Australia)
วีซ่านักเรียน (Student Visa)
- วีซ่านักเรียน (Subclass 500) เป็นวีซ่าสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศออสเตรเลีย ด้วยวัตถุประสงค์ของการศึกษาที่มีระยะเวลาหลักสูตรมากกว่า 3 เดือน ตัั้งแต่ระดับประถมศึกษา ม้ธยมศึกษา อุดมศึกษา หลักสูตรภาษาอังกฤษ รวมทั้งหลักสูตรวิชาชีพและการฝึกอบรม
- การยื่นคำร้องขอวีซ่านักเรียน เป็นการยื่นผ่านระบบ online และจัดเตรียมเอกสารประกอบการขอวีซ่านักเรียน พร้อมทั้งชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า ตามที่กระทรวงกิจการตรวจคนเข้าเมืองและพิทักษ์เขตแดน สถานฑูตออสเตรเลีย กำหนดไว้
- สำหรับรายการเอกสารประกอบคำร้องขอวีซ่านักเรียน ประกอบด้วย
- แบบฟอร์มขอวีซ่านักเรียน กรอกข้อมูลผ่านระบบ online
- หนังสือเดินทางของผู้ยื่นคำร้องขอวีซ่านักเรียน ที่มีอายุการใช้งานได้อีกไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- เอกสารยืนยันการลงทะเบียนจากทางสถาบันศึกษา (Confirmation of Enrollment – CoE)
- สำเนาบัตรประชาชน / หรือสูติบัตร กรณีผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- เอกสารแสดงการรับราชการทหาร และ / หรือ รับรองการพ้นจากการรับราชการทหาร (ถ้ามี)
- ผู้ยื่นคำร้องขอวีซ่านักเรียน จะต้องแสดงหลักฐานแสดงทุนทรัพย์ที่เพียงพอต่อการดำรงชีพในออสเตรเลีย อย่างน้อย 12 เดือน
- ผู้ยื่นคำร้องขอวีซ่านักเรียน จะต้องแสดงหลักฐานการชำระค่าประกันสุขภาพนักเรียน (Overseas Student Health Cover – OSHC) ที่มีระยะเวลาครอบคลุมตลอดการเรียนและพำนักในประเทศออสเตรเลีย
- สำหรับผู้ยื่นคำร้องขอวีซ่านักเรียนและมีระยะเวลาเรียนมากกว่า 6 เดือน จะต้องได้รับการตรวจสุขภาพกับโรงพยาบาลและแพทย์ที่ได้รับการแต่งตั้งจากสถานฑูตออสเตรเลีย เพื่อประกอบการพิจารณาคำร้องขอวีซ่านักเรียน
- กรณีที่ผู้ยื่นคำร้องขอวีซ่านักเรียน เป็นผู้เยาว์ ซึ่งมีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะต้องแสดงหลักฐานจากสถาบันการศึกษาในออสเตรเลีย รับรองว่ามีการจัดเตรียมสถานที่พำนัก และจัดให้มีผู้ดูแลผู้เยาว์ ตลอดระยะเวลาที่ศึกษาอยู่ในออสเตรเลีย หรือ จนกว่าผู้ยื่นคำร้องขอวีซ่าจะมีอายุครบ 18 ปี บริบูรณ์
- กรณีที่บิดา หรือ มารดา หรือ ผู้ได้รับสิทธิ์ปกครองตามกฏหมายของผู้เยาว์ ต้องการเดินทางเข้าประเทศออสเตรเลีย เพื่อดูแลนักเรียนที่เป็นผู้เยาว์ จะต้องยื่นคำร้องขอวีซ่าผู้ปกครอง (Guardian)
- ในบางกรณี เจ้าหน้าที่ผู้พิจารณาคำร้องขอวีซ่านักเรียน อาจจะขอข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล (BioMetrics Collection) คือการถ่ายภาพใบหน้าและพิมพ์ลายนิ้วมือ) เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาคำร้องขอวีซ่านักเรียน
- การพิจารณาคำร้องขอวีซ่านักเรียน จะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ทั้งนี้ระยะเวลาการพิจารณาคำร้องอาจจะล่าช้ากว่าที่กำหนดในกรณีที่เอกสารประกอบการพิจารณาไม่สมบูรณ์ หรือมีประวัติความประพฤติมิชอบ หรือประวัติอาชญากรรม หรือ ปัจจัยอื่น ๆ ที่เจ้าหน้าที่ผู้พิจารณาคำร้องขอวีซ่ามีข้อสงสัย
- สำหรับวีซ่านักเรียน ประเทศออสเตรเลีย เป็นวีซ่าแบบอิเลคโทรนิค (E-Visa) ซึ่งจะไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่แสดงถึงการได้รับอนุมัติวีซ่าประทับอยู่ในหนังสือเดินทางของผู้ยื่นคำร้อง หากแต่รายละเอียดของวีซ่าจะถูกบันทึกอยู่ในระบบของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและเชื่อมโยงกับรายละเอียดหนังสือเดินทางของผู้ยื่นคำร้อง
- ภายหลังจาการได้รับอนุมัติวีซ่านักเรียนแล้ว ผู้ถือวีซ่านักเรียนจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ กระทรวงกิจการตรวจคนเข้าเมืองและพิทักษ์เขตแดน สถานฑูตออสเตรเลีย กรุงเทพฯ กำหนดไว้ ตัวอย่างเช่น
- ได้รับสิทธิ์ทำงานแบบ Part – time ไม่เกิน 40 ชั่วโมง ต่อ 2 สัปดาห์
- ต้องมีระยะเวลาการเข้าเรียนไม่ต่ำกว่า 80%
- จะต้องคงรักษาสถานภาพการเป็นนักเรียน / นักศึกษาของสถาบันการศึกษา ตลอดระยะเวลาที่พำนักอยู่ในประเทศออสเตรเลีย
- ห้ามอยู่ในประเทศออสเตรเลีย เกินระยะเวลาที่กำหนดไว้ในวีซ่า
- ผู้ถือวีซ่านักเรียน ที่ไม่ปฏิบัติงานเงื่อนไขวีซ่าที่กำหนด จะได้รับโทษตามที่กระทรวงกิจการตรวจคนเข้าเมืองและพิทักษ์เขตแดน สถานฑูตออสเตรเลีย กรุงเทพฯ กำหนดไว้
- ข้อมูลเพิ่มเติม สามารถศึกษาได้ที่ กระทรวงกิจการตรวจคนเข้าเมืองและพิทักษ์เขตแดน สถานฑูตออสเตรเลีย กรุงเทพฯ หรือ บริษัท เฟอร์เธอร์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด โทร 02 637 8778
วีซ่าผู้ปกครอง (Student Guardian Visa)
- วีซ่าผู้ปกครอง (Subclass 590) เป็นวีซ่าสำหรับผู้ที่ประสงค์จะเดินทางเข้าประเทศออสเตรเลียเพื่อวัตถุประสงค์ในการดูแลบุตรผู้ที่เป็นผู้เยาว์ (อายุต่ำกว่า 18 ปี) ที่ศึกษาอยู่ในประเทศออสเตรเลีย
- ผู้ที่มีสิทธิ์ยื่นคำร้องขอวีซ่าผู้ปครอง จะต้องเป็น บิดา หรือ มารดา หรือ ผู้มีสิทธิ์ในการดูแลตามกฏหมาย ของนักเรียนที่เป็นผู้เยาว์
- การยื่นคำร้องขอวีซ่าผู้ปกครอง เป็นการยื่นผ่านระบบ online และจัดเตรียมเอกสารประกอบการขอวีซ่าผู้ปกครอง พร้อมทั้งชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า ตามที่กระทรวงกิจการตรวจคนเข้าเมืองและพิทักษ์เขตแดน สถานฑูตออสเตรเลีย กำหนดไว้
- สำหรับรายการเอกสารประกอบคำร้องขอวีซ่าผู้ปกครอง ประกอบด้วย
- แบบฟอร์มขอวีซ่าผู้ปกครอง กรอกข้อมูลผ่านระบบ online
- หนังสือเดินทางของผู้ยื่นคำร้องขอวีซ่าผู้ปกครอง ที่มีอายุการใช้งานได้อีกไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- หลักฐานแสดงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ยื่นคำร้องขอวีซ่าผู้ปกครอง และ นักเรียนที่เป็นผู้เยาว์ เช่น สำเนาสูติบัตรของนักเรียน
- หลักฐานแสดงทุนทรัพย์ที่เพียงพอต่อการดำรงชีพในออสเตรเลีย อย่างน้อย 12 เดือน
- เอกสารแสดงการรับราชการทหาร และ / หรือ รับรองการพ้นจากการรับราชการทหาร (ถ้ามี)
- ภายหลังจากการยื่นคำร้องขอวีซ่า ผ่านระบบ online ผู้ยื่นคำร้องขอวีซ่าผู้ปกครอง จะต้องเก็บข้อมูลอัตลักษณ์ (BioMetrics Collection)
- ผู้ยื่นคำร้องขอวีซ่าผู้ปกครอง จะต้องแสดงหลักฐานการชำระค่าประกันสุขภาพการเดินทาง (Overseas Visitor Health Cover – OVHC) ที่มีระยะเวลาครอบคลุมอย่างน้อย 12 เดือน สำหรับการพำนักอยู่ในประเทศออสเตรเลีย
- ผู้ยื่นคำร้องขอวีซ่าผู้ปกครอง จะต้องได้รับการตรวจสุขภาพกับโรงพยาบาลและแพทย์ที่ได้รับการแต่งตั้งจากสถานฑูตออสเตรเลีย เพื่อประกอบการพิจารณาคำร้องขอวีซ่าผู้ปกครอง
- ผู้ยื่นคำร้องขอวีซ่าผู้ปกครอง จะต้องยื่นหลักฐานการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
- การพิจารณาคำร้องขอวีซ่าผู้ปกครอง จะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ทั้งนี้ระยะเวลาการพิจารณาคำร้องอาจจะล่าช้ากว่าที่กำหนดในกรณีที่เอกสารประกอบการพิจารณาไม่สมบูรณ์ หรือมีประวัติความประพฤติมิชอบ หรือประวัติอาชญากรรม หรือ ปัจจัยอื่น ๆ ที่เจ้าหน้าที่ผู้พิจารณาคำร้องขอวีซ่ามีข้อสงสัย
- สำหรับวีซ่าผู้ปกครอง ประเทศออสเตรเลีย เป็นวีซ่าแบบอิเลคโทรนิค (E-Visa) ซึ่งจะไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่แสดงถึงการได้รับอนุมัติวีซ่าประทับอยู่ในหนังสือเดินทางของผู้ยื่นคำร้อง หากแต่รายละเอียดของวีซ่าจะถูกบันทึกอยู่ในระบบของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและเชื่อมโยงกับรายละเอียดหนังสือเดินทางของผู้ยื่นคำร้อง
- ระยะเวลาวีซ่าผู้ปกครอง จะสิ้นสุดเมื่อนักเรียนผู้เป็นผู้เยาว์ อายุครบ 18 ปี บริบูรณ์ หรือ เท่ากับวีซ่าของนักเรียนที่เป็นผู้เยาว์
- ภายหลังจาการได้รับอนุมัติวีซ่าผู้ปกครองแล้ว ผู้ถือวีซ่าผู้ปกครองจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ กระทรวงกิจการตรวจคนเข้าเมืองและพิทักษ์เขตแดน สถานฑูตออสเตรเลีย กรุงเทพฯ กำหนดไว้ ตัวอย่างเช่น
- ไม่ได้สิทธิ์การทำงานในระหว่างพำนักอยู่ในประเทศออสเตรเลีย
- ลงทะเบียนเรียนหลักสูตรได้ ไม่เกิน 3 เดือน ตลอดระยะอายุของวีซ่า
- ห้ามอยู่ในประเทศออสเตรเลีย เกินระยะเวลาที่กำหนดไว้ในวีซ่า
- ผู้ถือวีซ่าผู้ปกครอง ที่ไม่ปฏิบัติงานเงื่อนไขวีซ่าที่กำหนด จะได้รับโทษตามที่กระทรวงกิจการตรวจคนเข้าเมืองและพิทักษ์เขตแดน สถานฑูตออสเตรเลีย กรุงเทพฯ กำหนดไว้
- ข้อมูลเพิ่มเติม สามารถศึกษาได้ที่ กระทรวงกิจการตรวจคนเข้าเมืองและพิทักษ์เขตแดน สถานฑูตออสเตรเลีย กรุงเทพฯ หรือ บริษัท เฟอร์เธอร์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด โทร 02 637 8778
วีซ่าธุรกิจ (Business Visa)
- วีซ่าธุรกิจ (Subclass 600) เป็นวีซ่าสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศออสเตรเลีย ด้วยวัตถุประสงค์ของการติดต่อเจรจาธุรกิจระยะสั้น หรือการเข้าร่วมประชุม สัมมนา ซึ่งมีระยะเวลาไม่เกิน 3 เดือน
- การยื่นคำร้องขอวีซ่าธุรกิจ เป็นการยื่นผ่านศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าออสเตรเลีย (VFS) และจัดเตรียมเอกสารประกอบการขอวีซ่าธุรกิจ พร้อมทั้งชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า ตามที่กระทรวงกิจการตรวจคนเข้าเมืองและพิทักษ์เขตแดน สถานฑูตออสเตรเลีย กำหนดไว้
- สำหรับรายการเอกสารประกอบคำร้องขอวีซ่าธุรกิจ ประกอบด้วย
- แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าท่องเที่ยวหมายเลข 1415
- หนังสือเดินทางของผู้ยื่นคำร้องขอวีซ่าธุรกิจ ที่มีอายุการใช้งานได้อีกไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- รูปถ่ายแบบใช้ในราชการ 1 รูป (ขนาด 45 mm x 35 mm) ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- หลักฐานแสดงทุนทรัพย์ส่วนตัวที่เพียงพอ สำหรับการเดินทางของผู้ยื่นคำร้องขอวีซ่าธุรกิจ อันได้แก่ สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ประเภทออมทรัพย์ ที่มีรายการเดินบัญชีย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน โดยผู้ยื่นคำร้องขอวีซ่าท่องเที่ยว จะต้องยื่นสมุดบัญชีเงินฝาก ฉบับจริง และจะถูกส่งคืนภายหลังสิ้นสุดกระบวนการพิจารณาวีซ่าท่องเที่ยว
- หลักฐานแสดงการประกอบอาชีพ เช่น จดหมายรับรองเงินเดือน หลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของกิจการ เป็นต้น
- จดหมายเชิญจากหน่วยงานในประเทศออสเตรเลีย
- ผู้ยื่นคำร้องขอวีซ่าธุรกิจจะต้องเดินทางไปยื่นคำร้องด้วยตนเอง เนื่องจากผู้ยื่นคำร้องทุกคน จะต้องเก็บข้อมูลอัตลักษณ์ (BioMetrics Collection) ในวันยื่นคำร้อง
- การพิจารณาคำร้องขอวีซ่าธุรกิจ จะใช้ระยะเวลาประมาณ 10 วันทำการ ทั้งนี้ระยะเวลาการพิจารณาคำร้องอาจจะล่าช้ากว่าที่กำหนดในกรณีที่เอกสารประกอบการพิจารณาไม่สมบูรณ์ หรือมีประวัติความประพฤติมิชอบ หรือประวัติอาชญากรรม หรือ ปัจจัยอื่น ๆ ที่เจ้าหน้าที่ผู้พิจารณาคำร้องขอวีซ่ามีข้อสงสัย
- สำหรับวีซ่าธุรกิจ ประเทศออสเตรเลีย เป็นวีซ่าแบบอิเลคโทรนิค (E-Visa) ซึ่งจะไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่แสดงถึงการได้รับอนุมัติวีซ่าประทับอยู่ในหนังสือเดินทางของผู้ยื่นคำร้อง หากแต่รายละเอียดของวีซ่าจะถูกบันทึกอยู่ในระบบของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและเชื่อมโยงกับรายละเอียดหนังสือเดินทางของผู้ยื่นคำร้อง
- ภายหลังจาการได้รับอนุมัติวีซ่าธุรกิจแล้ว ผู้ถือวีซ่าธุรกิจจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ กระทรวงกิจการตรวจคนเข้าเมืองและพิทักษ์เขตแดน สถานฑูตออสเตรเลีย กรุงเทพฯ กำหนดไว้ ตัวอย่างเช่น
- ไม่ได้รับสิทธิ์การทำงาน ในระหว่างพำนักอยู่ในประเทศออสเตรเลีย
- ห้ามอยู่ในประเทศออสเตรเลีย เกินระยะเวลาที่กำหนดไว้ในวีซ่าผู้ถือวีซ่าธุรกิจ ที่ไม่ปฏิบัติงานเงื่อนไข